การติดตั้ง VPN แบบ PPTP Connection ใน Windows 7

วิธี การที่สะดวกในการเชื่อมต่อ VPN อีกวิธีที่ได้รับความนิยมคือ VPN แบบ PPTP Connection (Point-To-Point Tunneling Protocol) โดยวิธีการดังกล่าวเป็นการเชื่อมต่อ VPN ในระดับ Tunneling คือการสร้าง ‘ท่อ’ ในการรับ-ส่งข้อมูล ระหว่าง VPN Client และ VPN Server หรืออาจจะเรียกได้อีกแบบว่าเป็นการทำ VPN แบบ 1 เฟส (* ชื่อนี้ผมชอบเรียกเอง โดยเปรียบเทียบจากการทำ IPSec VPN ที่ทำ VPN แบบ 2 เฟส) 

การทำ PPTP Connection ใน Windows 7 สามารถใช้งานร่วมกับ PPTP Server ที่รองรับมาตรฐาน PPTP ได้ทุกค่าย ดังนั้นท่านสามารถทำนำเอาวิธีการติดตั้งในบทความนี้ไปประยุกต์ใช้งานได้ตาม อัธยาศัย

ข้อมูลเบื้องต้นก่อนการติดตั้ง

1. การติดตั้งและเชื่อมต่อ VPN แบบ PPTP Connection ในบทความนี้ ทดสอบจาก Windows XP Service Pack 2
2. กำหนดให้สร้าง PPTP Account บนเครื่อง PPTP Server ก่อนการติดตั้ง จากตัวอย่าง มีรายละเอียดการเชื่อมต่อดังนี้
   
   • PPTP Server Address = sys2u-pptp.dyndns.info
   • PPTP Account Username = sys2u
   • PPTP Account Password = sys2u
   * ท่านสามารถเปลี่ยนแปลงรายละเอียดตามต้องการ

ขั้นตอนที่ 1 สร้างการเชื่อมต่อแบบ VPN PPTP กับ PPTP Server

Microsoft Windows 7
• เข้าเมนู ‘All Programs’ -> ‘Control Panel’’ 
  
  
• เข้าเมนู ‘Network and Internet' 
  
  
• เข้าเมนู ‘Network and Sharing Center' 
  
  
• เข้าเมนู ‘Setup new connection or network' 
  
  
• เข้าเมนู ‘Connect to a work place' จากนั้นกดปุ่ม 'Next'
  
  
  
• เข้าเมนู ‘Use my internet connection (VPN)' 
  
  
• กำหนดที่อยู่ของ VPN Server โดยจะระบุเป็น IP Address ในกรณีที่เชื่อมต่อ Internet แบบ Static หรือจะกำหนดเป็น FQDN ในกรณีที่เชื่อมต่อ Internet แบบ Dynamic DNS โดยตัวอย่างระบุดังนี้
  
  
  • Internet Address : 'sys2u-pptp.dyndns.info'
  • Destination Name : 'SYS2U PPTP VPN' (* กำหนดตามความต้องการ)
  
  
  
  
• กำหนดชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านที่ระบุอยู่ใน Linksys RV042 โดยตัวอย่างระบุดังนี้
  
  • User name : 'sys2u'
  • Password : 'sys2u' (* กำหนดตามความต้องการ)
  
  
  
  
• กำลังเชื่อมต่อไปยัง Linksys RV042 VPN Server
  
  
  
  
• การเชื่อมต่อไปยัง Linksys RV042 VPN Server เรียบร้อยแล้ว !
  
  

ขั้นตอนที่ 2 ในกรณีที่ต้องการเชื่อมต่อ VPN อีกครั้ง ท่านสามารถไปที่ Taskbar ด้านมุมขวาของหน้าจอ















เท่านี้ละครับ เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วครับ

credit : http://www.sys2u.com/
บทความสำหรับ: ผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับระบบเครือข่ายในระดับเบื้องต้นถึงปานกลาง (v1.1) 
โดย ศุภสิทธิ์ ศิริพานิชกร

Restore/Import Database SQL Server 2005

Restore/Import Database SQL Server 2005 เป็นขั้นตอนการ Restore/Import ฐานข้อมูล SQL Server 2005 ที่ได้จากการ Backup ไว้ หรือจะทำการ Import มาจาก Version ก่อนหน้านี้ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน


การ Restore ข้อมูล

 

คลิกขวาที่ mydatabase -> Tasks -> Restore -> Database


 

เลือกจาก Database Backup หรือ โฟเดอร์ที่ได้ทำการระบุไว้


 




เลือก Record ทีได้ Backup ไว้



เลือก Option กรณีที่ต้องการให้ Replace Database ตัวที่มีอยู่


 

โปรแกรมทำการ Restore เรียบร้อย

credit : http://www.thaicreate.com

Microsoft SQL Server 2005

Microsoft SQL Server 2005 วิธีการติดตั้งฐานข้อมูล SQL Server 2005 สำหรับเวอร์ชั่น 2005 นี้เป็นฐานข้อมูลเวอร์ชั่นที่ต่อพัฒนาต่อมาจากเวอร์ชั่น 2000 ซึ่งการใช้งานและฟีเจอร์หลัก ๆ จะรู้สึกชินกับเวอร์ชั่น 2000 และ Visual Studio 2005 ซึ่งจะเป็นการทำงานผสาน Common language runtime ของ Microsoft .NET ซึ่งผมได้ทดลองใช้กับ Visual Studio 2005,2008 แล้วมันช่างเข้ากันได้ดีจริง ๆ ครับ ซึ่งใน Version 2005 ยังสามารถนำฐานข้อมูลจาก Version 2000 มาใช้ได้โดยไม่ต้องทำการ Convert แต่อย่างใด เพียงแต่ Import เข้ามาก็สามารถเปลี่ยนจาก SQL Server 2000 เป็น SQL Server 2005 ในทันที
เริ่มการติดตั้ง
หน้าจอเริ่มแรกของการติดตั้ง SQL Server 2005 โดยไปที่ -> เลือก Server Component,



เลือก Next ตามลำดับ




เลือก Install ตามลำดับ




เลือก Next ตามลำดับ




เลือก Next ตามลำดับ




กรอกข้อมูล และเลือก Next




และเลือก Option บางทีเราไม่ต้องเลือกหมดก็ได้เลือกเอาแต่ที่เราใช้งาน และเลือก Next




กำหนด Instance Name ในที่นี่ผมเลือก Default Instance ซึ่งตอนที่ทำการเรียกตัว Database Server จะสามารถเรียกผ่าน IP ได้โดยตรง แต่ถ้ามีการกำหนด Instance เพิ่มเติมในกรณีที่มีการอ้างถึงหรือเรียก Database Server จะต้องเรียกด้วย IP\Instance 

เช่น ตั้งชื่อ Instance เป็น SQL2005

IP\SQL2005

เลือก Service Account ในกรณีที่ Join Domain หรือจะเลือกเป็น Local System ครับ




เลือก Authentication Mode ตัวนี้ให้เลือก Mixed Mode (Windows Authentication and SQL Server Authentication)

หรือใช้การกำหนด [SQL Server 2005 Authentication Mode] ได้จากการ Config ครับ




กำหนด Collation ของ Database




เลือก Install the defulat configuration และเลือก Next




กำหนด Option เพิ่มเติม




กำลังทำการติดตั้ง




การติดตั้ง SQL Server 2005 สมบูรณ์ 

credit : http://www.thaicreate.com

fiber optic SFP & GBIC

ระบบ fiber optic เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ คศ 1900 จนมาในปัจจุบันมีการการเชื่อมต่อหลายรูปแบบ ตัวอย่างเช่น

FC Type: นิยมใช้กับงานด้าน การสื่อสารทางโทรคมนาคม เนื่องจากมีการเชื่อมต่อที่แน่นหนา
ST Type:  ได้นำมาใช้ในงานด้านคอมพิวเตอร์อย่างแพร่หลายในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ใช้กับการเชื่อมต่อกับ module แบบ GBIC ซึ่งมีการสูญเสียต่ำแต่กำลังเสื่อมความนิยม
LC Type: เป็นที่นิยมมากในช่วงที่ผ่านมา ใช้กับการเชื่อมต่อกับ module แบบ mini-GBIC หรือ SFP (Small form factor pluggable กำลังจะมาแทนการเชื่อมต่อแบบST Type เนื่องจากมีขนาดที่เล็กกว่า ประมาณครึ่งหนึ่งของ GBIC มีการสูญเสียที่ต่ำมากและกินไฟน้อยกว่า

Fiber Optic ถ้าแบ่งตามการเดินทางของแสงได้ 2 ชนิด คือ

1. Single Mode Fiber
มีแนวของลำแสงอยู่ในแนวเดียว เรียกว่า Single Mode Fiber Optic (SMF) ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของแกน ประมาณ 5-10 และ Cladding 125 ไมครอน

2. Multi Mode Fiber
มีแนวของลำแสงอยู่เป็นจำนวนมาก เราเรียกว่า Multi-Mode Fiber Optic (MMF) ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของแกน ประมาณ 50 และ 62.5 และ Cladding 125ไมครอน



โดยเราสามารถใช้ ไฟเบอร์ ออฟติคให้เหมาะสมกับระยะทางตามตารางด้านล่าง

ตารางชื่อมาตราฐานของไฟเบอร์ ออฟติก จาก  web site wikipedia
ตัวอย่างเช่น
Fiber optic ชนิด single mode (1000Base-LX): สามารถใช้งานได้ดีที่ระยะทาง 5 KM
Fiber optic ชนิด single mode ที่มีความยาวคลื่น 1550 nm (1000Base-ZX): สามารถใช้งานได้ดีที่ระยะทาง 70 KM ซึ่งสายและอุปกรณ์เชื่อมต่อยังมีราคาสูงอยู่
Fiber optic ชนิด multi mode (1000Base-SX): สามารถใช้งานได้ดีที่ระยะทาง 550 Meter เหมาะกับงานภายในอาคารเพราะมีระยะใกล้และมี cladding ไม่หนามากจึงเปราะบางกว่า fiber optic แบบ single mode

ลักษณะสาย Fiber optic

SFP & GBIC แตกต่างกันอย่างไร

GBIC = GigaBit Interface Card ก็คือ Module Gigabit ใช้กับ Switch รุ่นเก่าหน่อย ลักษณะตามรูป

SFP = Small Form Pluggable Module -- Switch รุ่นใหม่ จะใช้ ตัว Module Gigabit แบบนี้แทนเพราะเล็กกว่า ลักษณะตามรูป

ส่วนมาตราฐาน ก็น่าจะมีเหมือน ๆ กัน เช่น
GBIC 1000BASE-T, SFP 1000BASE-T
GBIC 1000BASE-SX, SFP 1000BASE-SX
GBIC 1000BASE-LX, SFP 1000BASE-LX

กล่าวคือ SFP คือ mini-GBIC นั่นเอง เป็น Transceivers แบบนึง ปกติแล้ว สาย fiber cable จะเข้าหัวแบบ LC แล้วจะมาเสียบเข้ากับ SFP Transceiver แล้วค่อยเสียบเข้ากับ Switch ที่มี Port SFP อีกทีนึง Switch รุ่นใหม่ๆจะใช้ SFP แทน GBIC กันหมดแล้วหัว LC ที่เสียบเข้ากับ SFP จะมี 2 หัวคือ TX กับ RX ตามรูป

ลักษณะการต่อใช้งาน SFP & GBIC กับ Cisco 7200 Series Routers ตามลิ้งด้านล่าง

http://www.cisco.com/en/US/docs/routers/7200/install_and_upgrade/gbic_sfp_modules_install/5067g.html